“ทำในสิ่งที่ชอบ เป็นในสิ่งที่ใช่” กับ 7 ขั้นตอนแห่งการค้นหาตัวเอง

ว่ากันว่า คนที่โชคดีที่สุด ก็คือคนที่ค้นพบว่าตนเองชอบอะไรและได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะการที่ได้ทำงานที่เรารักนั้น มันจะทำให้เราไม่รู้สึกว่ามันคือการทำงาน แต่เราจะรู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต ชีวิตส่วนตัวจะไม่ถูกแยกขาดออกจากการทำงาน

เราจะทำงานแบบไม่ต้องรอคอยวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เราจะสนุกกับการแก้ปัญหา เราจะอยากพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นๆโดยไม่ต้องมีใครมาบังคับ

แต่การจะค้นพบตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตกว่าจะค้นพบตัวเอง หรือบางคนใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตยังค้นหาตัวเองไม่เจอก็มีเยอะ

และนี้คือวิธีค้นหาตัวเองให้เจอว่าความฝันของเรา อยากทำอะไร อยากเป็นแบบไหน อยากทำอาชีพอะไร เพราะความฝันความสนใจบางทีมันก็เปลี่ยนไปตามวันเวลา ชีวิตก็ต้องตั้งคำถามและค้นหาต่อไป ซึ่งในที่สุดคำตอบใช่ ก็เริ่มปรากฏขึ้นมาให้เห็นเองอย่างแน่นอน

1.ตั้งใจทำความรู้จักตัวเองให้ถึงที่สุด

ใช้เวลาเงียบๆ นั่งคิดวิเคราะห์ตัวเองว่า “อะไร คือ สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด” และ “อะไร คือ สิ่งที่ทำแล้วมีความสุขที่สุด” นี่คิดขั้นแรกของการรู้จักตัวเอง เพราะเราคงหางานที่เหมาะกับเราไม่ได้ หากเราไม่รู้ว่าตัวเราเองเป็นยังไง

2.ออกเดินทางหาประสบการณ์ให้ชีวิต

อาชีพบนโลกนี้ มันมีหลากหลายมากกว่าที่เราคิดมากนัก ยิ่งเห็นโลกมาก ก็ยิ่งมีทางเลือกให้เลือกเดินมาก ไม่ว่าจะออกเดินทางท่องเที่ยวในที่ที่เราไม่เคยไป เราจะได้พบเห็นสิ่งต่างๆ ที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน บางทีอาจจะเกิดไอเดียหรือพบสิ่งที่เราตามหาก็ได้ เมื่อเห็นทางเลือกมากขึ้น ขั้นตอนต่อไปก็คือต้องเลือกว่า อันไหนล่ะที่จะเหมาะกับเรา

3.ลงมือค้นหาและหมั่นสังเกตตัวเองอย่างจริงจัง

หากเราไม่คิดจะตั้งคำถาม ไม่คิดค้นหาแค่ทำในสิ่งที่เป็นอยู่ไปวันๆ เมื่อนั้นก็คงไม่ได้รับคำตอบ ในระหว่างที่เราเดินทางไปหาประสบการณ์ เราก็ต้องหมั่นสังเกตตัวเองว่า เรารู้สึกกับอาชีพต่างๆที่ได้รู้จักนั้นอย่างไร อาชีพไหนที่เราเห็นแล้วรู้สึกตื่นเต้น ตาโต อันไหนที่ทำให้รู้สึกหัวใจเต้นแรงรู้สึกว่า “อยากทำอย่างนี้มั่งจัง” ถ้าสังเกตตัวเองชัดๆ มันจะได้อาชีพที่ผ่านเข้ารอบมาในจิตใจจำนวนหนึ่ง

4.โยนคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ไปไกลๆ

ข้อนี้เป็นข้อสำคัญที่สุดในการค้นพบตัวเองและความฝัน เพราะคนเรามักจะเกิดอาการกลัวในการจะทำสิ่งใหม่ๆ และมักคิดไปเองว่าสิ่งที่เราฝันมันคงเป็นไปไม่ได้ ทำไม่ได้หรอก เลยไม่ทำดีกว่า

แต่เชื่อหรือไม่เราสามารถทำมันได้ เพียงแต่เราต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้เสียก่อน ด้วยการโยนคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ออกไป แล้วเปลี่ยนเป็นคำว่า “จะทำอย่างไรให้เป็นไปได้” จากนั้นเราก็จะมุ่งมั่นค้นหาวิธีการต่างๆ นานา มาทำให้สิ่งที่เราฝันนั้นเป็นจริงขึ้นมา

5.พิสูจน์ความฝัน ตอกย้ำความเชื่อ

เมื่อเจออาชีพในฝันเราที่อยากทำแล้ว แค่นั้นยังไม่พอเราต้องหาข้อมูลเพื่อให้รู้จักงานนั้นทุกแง่ทุกมุมเสียก่อนว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร

ทำแล้วจะเจอกับอุปสรรคปัญหาอะไรบ้าง เพราะผู้คนจำนวนมาก ใฝ่ฝันถึงอาชีพนั้นนี้ในแง่มุมที่มีแต่ความสวยงาม โดยลืมมองไปว่าทุกอาชีพย่อมมีแง่มุมที่ยากลำบากและมีปัญหาด้วยกันทั้งสิ้น

จากนั้นก็ตัดสินจว่าเราพร้อมที่จะเจอกับมันหรือยัง แล้วเรายังอยากทำมันอยู่หรือเปล่า แต่ถ้าอยากพิสูจน์ว่าเราทำได้หรือเปล่า เราก็ควรจะ ต้องพิสูจน์โดยการลงมือทำ ลองดูสิว่า เราอยู่กับมันได้ไหม ถ้าอยู่ได้ ก็ใช่เลย

6.จงเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง

อย่าถามตัวเองว่า “เราจะทำได้เหรอ” แต่ให้ถามตัวเองว่า “อยากทำมันหรือเปล่าล่ะ” เราควรเชื่อว่า “ความอยากเอาชนะความยาก” ได้

“ความเก่ง” ไม่สำคัญเท่ากับ “ความอยากเก่ง”และ “ความอยากเก่ง” ก็อาจไม่สำคัญเท่ากับ “ความเชื่อที่ว่าเราจะเก่งขึ้นได้”

แม้ว่าสิ่งนั้นมันจะยาก มันอาจดูเกินความสามารถของเรา แต่ถ้าหากมันเป็นสิ่งที่เรารัก “ถึงจะยาก เราก็อยากสู้” ใช่ไหมล่ะ

7.ลงมือทำด้วยจิตใจอันแน่วแน่

หากพบแล้วว่าสิ่งนั้นคือความฝัน ความฝันจะไม่มีค่าเลย หากเราไม่ลงมือทำ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว เราก็ควรตั้งใจลงมือทำอย่างแน่วแน่ อย่าล้มเลิกง่่ายๆ ซึ่งมันไม่มีประโยชน์เลยถ้าเรามัวแต่นั่งฝัน แต่ไม่ก้าวเดิน ถ้ารักในสิ่งนั้นจริง เราจะไม่พูดมากหรอก แต่เราจะลงมือทำให้มันเกิดขึ้นมา

ดังนั้นจง “ทำในสิ่งที่ชอบ เป็นในสิ่งที่ใช่”

คนที่เลือกทำในสิ่งที่ตรงกับความถนัดของตัวเอง ไม่ว่าจะทำอะไรก็มักประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ค้นหาสิ่งที่คุณรัก พัฒนาสิ่งที่คุณทำ “ทำในสิ่งที่ชอบ” และ “เป็นในสิ่งที่ใช่” ชีวิตจะมีความสุขเพิ่มขึ้นได้โดยไม่ยาก

คำถามชวนคิด

อะไร คือ “ความถนัด” หรือ “ความสามารถพิเศษ” ของคุณ
ทุกวันนี้ คุณมีโอกาสได้ใช้ “ความถนัด” หรือ “ความสามารถพิเศษ” นั้นๆ มากน้อยแค่ไหน
จะมีวิธีอย่างไรที่คุณจะได้ใช้ “ความถนัด” หรือ “ความสามารถพิเศษ” ของตนเองให้มากยิ่งขึ้น
วิธีค้นหาตัวเอง