10 ที่เที่ยวเกียวโต Kyoto ยอดฮิตที่คนไทยชอบไป

เกียวโต ( #Kyoto ) เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 794 และเคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นมากกว่า 1,000 ปีทีเดียว ภายในเมืองเต็มไปด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิมอันน่าสนใจท่ามกลางบรรยากาศอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นต้องไม่พลาดมาเยือนที่เกียวโต

วันนี้เราจะพาไปเที่ยว 10 สถานที่ที่ห้ามพลาดที่เกียวโต จะมีที่ไหนบ้าง ตามมาดูกัน

1.#วัดคินคะคุจิ หรือวัดทอง (Kinkaku-ji Temple)

Kinkaku-ji (วัดคินคะคุจิ) มีชื่อทางการว่า โรคุองจิ ตั้งอยู่ในคินุกาสะ เขตคิตะ สร้างขึ้นในปี 1397 เพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศของ “อาชิคางะ โยชิมิตสึ” โชกุนรุ่นที่ 3 ลักษณะของอาคารจะเป็นหอสามชั้นซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มีการปิดแผ่นทองคำเปลวทั้งภายในและนอก ความงดงามของสีทองระยิบระยับที่สะท้อนลงผิวน้ำดึงดูดผู้คนให้มาเที่ยวกันมากมาย และที่นี้ยังเป็นตำนานเกี่ยวกับการ์ตูนสมัยเด็กเรื่องอิกคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญาที่เราเคยดูกันค่ะ

สาเหตุที่คนส่วนมากเรียกวัดนี้ว่าวัดทอง นั่นก็เพราะว่าอาคารหลักของวัดนี้มีสีทองเหลืองอร่ามตั้งโดเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางน้ำ เวลามองภาพสะท้อนก็กลายเป็นภาพที่งดงามไม่แพ้กัน

2.วัดกินคะคุจิ หรือวัดเงิน (Ginkaku-ji Temple)

วัดกินคะคุจิ (Ginkaku-ji Temple) มีชื่อเรียกทางการว่า จิโชจิ หรือที่มีอีกชื่อหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่า “วัดเงินแห่งเกียวโต” โดยเป็นวัดวัดในนิกายเซนถูกสร้างขึ้นโดยโชกุนอาชิคากะ โยชิมาสะ (Ashikaga Yoshimasa) ที่ถูกยกให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งเมืองเกียวโต และที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1994 จากองค์การยูเนสโก UNESCOอีกด้วย

ด้วยชื่อที่เรียกกันว่าวัดเงินนั้นคล้องจองไปกับวัดทองหรือที่เรารู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า “วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple)”ซึ่งสาเหตุของชื่อก็น่าจะมาจากการที่มีวัดทองเป็นต้นแบบการสร้างวัดแห่งนี้ด้วย

3.วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส (Kiyomizu-dera Temple)

วัดคิโยะมิซุ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปีค.ศ. 778 สร้างขึ้นด้วยวิธีจิโกกุโดเมะ ไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว มีบุไต ลานแสดงด้านหน้าอุโบสถหลักที่สามารถชมวิวเมืองเกียวโตได้ทั้งเมือง ภายในวัดเป็นมีน้ำตกโอโตวะโนะทาคิ ไหลแยกเป็น 3 สาย โดยเชื่อว่าสายน้ำแต่ละสายจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในด้านการเรียน ความรัก และอายุยืนยาว

ซึ่งที่มาของชื่อวัดน้ำใสก็มาจากการที่วัดแห่งนี้นั้นได้มีน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) ไหลผ่านตัววัดนั่นเอง

4.ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Taisha)

ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ เป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าอินาริกว่า 30,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น สักการะบูชาโออินาริซัง เทพเจ้าแห่งพืชผลและการค้ามาตั้งแต่ปีค.ศ. 711 คนไทยทั้งหลายชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต(Shinto) จุดไฮไลท์ที่นี้ก็คือประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ

ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ เป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดในหมู่ศาลเจ้าจำนวนนับพันที่สักการะเทพอินาริ (Inari) ซึ่งเป็นเทพผู้รักษาข้าว ตามความเชื่อของศาสนาชินโต เชื่อกันว่าสุนัขจิ้งจอกนั้นเป็นผู้นำสารของอินาริ ดังนั้นคุณจะสามารถพบเห็นรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกได้ทั่วไปในอาณาบริเวณศาสนสถานแห่งนี้ ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ก่อนการก่อตั้งเกียวโตเป็นเมืองหลวงในปี 794

5.เขาอาราชิยามะ (Arashiyama)

เขาอาราชิยามะ (Arashiyama) เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเกียวโตที่เต็มไปด้วยไฮไลท์มากมาย โดยเฉพาะซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีอันแสนงดงาม บริเวณโดยรอบสะพานโทเก็ตสึเคียวนั้นเป็นที่ตั้งของ วัดเท็นริวจิ (Tenryu-ji), ศาลเจ้าโนโนมิยะ (Nonomiya Shrine) โด่งดังเรื่องการผูกสัมพันธ์, วัดเซเรียวจิ (Seiryo-ji), ศาลเจ้ามัตสึโอะไทชะ (Matsuo-taisha) และ วัดโฮรินจิ (Horin-ji) ป่าไผ่ก็มีบรรยากาศดีและอลังการมาก

6.วัดเรียวอันจิ (Ryoan-ji Temple)

วัดเรียวอันจิ (Ryoan-ji Temple) นับได้ว่าเป็นวัดที่สมัยเฮอัน (Heian Period)ที่มีชื่อเสียงมากๆเกี่ยวกับความงดงามของสวนหิน เรียกได้ว่ามากที่สุดในเกียวโตและยังเป็นอันดับต้นของประเทศญี่ปุ่น เดิมทีวัดแห่งนี้นั้นเป็นที่พักของเหล่าขุนนาง แต่ช่วงปี ค.ศ. 1450 ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นจากบ้านพักกลายมาเป็นวัดของนิกายเซน อีกทั้งยังเป็นโรงเรียนสอนศาสนาเมียวชินจิควบคู่กันอีกด้วย

ในด้านสวนหินนั้นจะมีลักษณะเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าด้านในถูกปูด้วยกรวด ซึ่งจะมีกลุ่มของก้อนหินตั้งเรียงๆกันให้เห็นประมาณ 15 กอง ที่พูดได้เลยว่าไม่ว่าจะมองมุมไหนทิศทางใดจะมีหินอย่างน้อยหนึ่งกองที่จะมองไม่เห็นเสมอ นับว่าเป็นการออกแบบที่ทั้งลึกลับและน่าทึ่งไปพร้อมๆกันว่าทำได้ยังไง ถ้าอยากจะรู้ว่าจะเป็นจริงตามที่หลายๆคนได้พูดถึงรึเปล่า อันนี้ก็ต้องลองแวะมาพิสูจน์กันที่วัดเรียวอันจิดูซักครั้งค่ะ

7.ศาลเจ้าคิตาโนะเท็นมังกู (Kitano Tenmangu Shrine)

ศาลเจ้าคิตาโนะเท็นมังกู สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 947 ตั้งอยู่ในเขตคามิเกียว เมืองเกียวโต นับเป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าที่โดดเด่นมากๆของเมืองมรรดกโลกอย่างเกียวโต (Kyoto) เนื่องจากเป็นหนึ่งในสอง ศาลเจ้าเทนมานกุที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น โดยที่อีกแห่งหนึ่งนั้นจะอยู่ที่เมืองดาไซฟุ (Dazaifu) ศาลเจ้านี่มีทั้งความเก่าแก่และความขลังที่แผ่ออร่ากระจายมาแต่ไกล

ศาลเจ้าคิตาโนะเท็มมังกู เป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าเท็มมังกูกว่า 12,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น สักการะซุกาวาระโนะมิจิซาเนะ เทพเจ้าแห่งการศึกษา จึงมีนักเรียน-นักศึกษาแวะเวียนมาสักการะเพื่อให้สมหวังเรื่องการเรียนและการสอบกันเป็นจำนวนมาก

ที่นี่โด่งดังเรื่องสวนต้นบ๊วย ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะเปิดให้เข้าชมพร้อมบริการชาด้วย ภายในวัดจะมีรูปปั้นวัวซึ่งเกี่ยวข้องกับมิจิซาเนะโคตั้งเอาไว้ตามจุดต่างๆ ผู้คนเชื่อกันว่าถ้าลูบจะทำให้มีโชคลาภ มีการจัดงานวัดขึ้นในวันที่ 25 ของทุกเดือน

8.วัดเท็นริวจิ (Tenryu-ji Temple)

วัดเท็นริวจิ (Tenryu-ji Temple) ถือว่าเป็นหนึ่งในห้าวัดที่สำคัญที่สุดของนิกายเซน แถมยังได้ถูกบันทึกให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO อีกด้วย ด้วยความที่ทั้งสำคัญต่อทั้งนิกายและเป็นมรดกโลกทำให้จัดว่าเป็นวัดที่จัดว่าทรงคุณค่ามากของเขตอาราชิยาม่าของเกียวโตเลยทีเดียว

วัดเท็นริวจิ สร้างขึ้นโดย “อาชิคากะ ทาคาอุจิ” ในปี 1339 สวนโซเก็นจิ ที่สร้างขึ้นโดยพระเซ็น มุโซ โซเซกิ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์แห่งแรกของญี่ปุ่นและแหล่งชมทัศนียภาพอันงดงามอีกด้วย ภาพมังกรที่วาดบนเพดานหอประชุมของวัดนั้นไม่ว่าจะดูจากทางไหนก็ดูเหมือนกำลังโดนจ้องมองอยู่ตลอดเวลาเลยทีเดียว บอกเลยว่าดูทรงพลังมาก

9.ปราสาทนิโจ (Nijo Castle)

ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) ปราสาทแห่งนี้มีอายุมานานหลายร้อยปีโดยถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1603 ในการเป็นที่พำนักอาศัยของท่านโชกุนโทคุกาวะ ที่ถือเป็นบุคคลสำคัญเนื่องจากท่านนั้นเป็นโชกุนคนแรกของสมัยเอโดะราวๆปี ค.ศ.1603-1867 และยัง เป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นอย่างไทเซโฮคัง (การประกาศคืนอำนาจจากโชกุนสู่พระจักรพรรดิ)

ปราสาทนิโจมีโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นดั้งเดิมที่สวยงามและได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสถานที่ทางมรดกโลกแห่งองค์การ UNESCO ในปี ค.ศ.1994

10.วัดเออิคันโดะ (Eikando Temple)

วัดเออิคันโดะ(Eikando Temple) มีอีกชื่อหนึ่งว่า วัดเซ็นรินจิ ตั้งอยู่ในเอคันโดโจ เขตซาเคียว สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 863 มีประวัติความเป็นมายาวนานถึงขนาดปรากฏอยู่ใน โคคินวากะชู (หนังสือรวมบทกลอนญี่ปุ่นที่ถูกรวบรวมขึ้นราวปีค.ศ. 900) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ร่วงนั้นมีความงดงามมาก แถมในตอนกลางคืนก็ยังมีการไลท์อัพด้วย พระประธานคือพระอมิตาภพุทธะปางยืน ซึ่งมีลักษณะค่อนข้างแปลกคือยืนหันหน้ามาทางผู้ที่มากราบไหว้สักการะเหมือนต้องการพูดคุยด้วย

และสุดท้ายอย่าลืมนะ ไปเที่ยวเกียวโตคราใด อย่าลืมใส่เสื้อซาซิโอไปด้วยทุกครั้ง เพราะเสื้อซาซิโอ คือเสื้อของคนชอบเที่ยว