ผ้าเรยอน (Rayon Fabric) เป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่ได้จากการนำเซลลูโลสธรรมชาติจากพืช เช่น ไม้ ผักตบชวา เยื่อไม้ ฯลฯ ผ่านกระบวนการทางเคมีจนได้เป็นเส้นใยที่มีสมบัติใกล้เคียงกับเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้ายและผ้าไหม ผ้าเรยอนมีชื่อเรียกอื่น ๆ เช่น ไหมสังเคราะห์ ไหมเทียม เส้นใยเรยอน เส้นใยวิสโคส เส้นใยอะซิเตท เป็นต้น
ซึ่งในวงการวิทยาศาสตร์ได้รับสมญานามว่า “ไหมเทียม” และนั่นก็หมายความว่าเนื้อผ้าเรยอนจะมีโครงสร้างที่ใกล้เคียงกับผ้าไหมอยู่พอสมควรในเรื่องของความมัน
คุณสมบัติของผ้าเรยอน
มีความนุ่ม ลื่น เนียน เป็นมันเงาคล้ายไหม
สามารถดูดซับความชื้นได้ดี ระบายอากาศได้ดี
เบาสบาย สวมใส่สบาย
ยืดหยุ่นได้ดี
ทนต่อการซัก รีดง่าย
การใช้งานของผ้าเรยอน
ผ้าเรยอนนิยมนำไปใช้ทำเสื้อผ้าหลากหลายประเภท เช่น เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต ชุดเดรส ชุดนอน ฯลฯ นอกจากนี้ยังนิยมนำไปทำผ้าม่าน ผ้าปูโต๊ะ ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ
ข้อดีของผ้าเรยอน
1.มีราคาไม่แพง
2.ผลิตง่าย
3.มีสีสันให้เลือกหลากหลาย
5.มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้ายและผ้าไหม
ข้อเสียของผ้าเรยอน
1.ยับง่าย
2.เปราะบาง ขาดง่าย
3.ติดไฟง่าย
ตัวอย่างการนำผ้าเรยอนไปใช้
1.เสื้อผ้า เช่น เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต ชุดเดรส ชุดนอน ฯลฯ
2.ผ้าม่าน
3.ผ้าปูโต๊ะ
4.ผ้าห่ม
5.ผ้าเช็ดตัว
6.ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เช่น ผ้าพันแผล ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
7.ผลิตภัณฑ์สุขอนามัย เช่น ผ้าอนามัย กระดาษทิชชู่
สรุปได้ว่า ผ้าเรยอนเป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่มีสมบัติใกล้เคียงกับเส้นใยธรรมชาติ นิยมนำไปใช้ทำเสื้อผ้า ผ้าม่าน และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย เนื่องจากมีราคาไม่แพง ผลิตง่าย และมีสีสันให้เลือกหลากหลาย
ผ้าเรยอนยังมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวอย่างเช่น เป็นเนื้อผ้าที่สามารถนำมาตัดเย็บเสื้อผ้า สวมใส่แล้วรู้สึกสบายเพราะสามารถดูดซับความชื้นและระบายความร้อนออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถดูดซับน้ำ เหงื่อ และระบายออกได้ดีเช่นเดียวกัน รวมไปถึงต้นทุนในการผลิตที่ต่ำกว่าเส้นใยชนิดอื่นทำให้ผู้ผลิตหลายท่านเลือกที่จะนำเส้นใยของผ้าเรยอนไปผสมเข้ากับเส้นใยอื่นๆ เพื่อสร้างความมันวาวและลดต้นทุนการผลิต